การกล่าวถึง ธรรมชาติของมนุษย์และความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับโลกธรรมชาติในสรรพสิ่ง ดูออกจะเป็นเรื่องที่ใหญ่พอควร สำหรับผู้เขียนเองและรวบรวมเรียบเรียงขึ้นมาจากที่ต่างๆ ก่อนที่เราจะสำรวจดูรายละเอียดของทัศนะเกี่ยวกับธรรมชาติในสรรพสิ่งของหนังสือเล่มนี้ ผมจะขอกล่าวในเรื่องส่วนตัวสักเล็กน้อยว่า ก่อนที่ผมจะเริ่มทำงานเขียนหนังสือ “บิ๊กแบงภายในใจ” (Bing Bang In My Mind) เล่มนี้นั้น ผมเคยมีทัศนคติต่อชีวิตที่ยึดมั่นถือมั่นในตัวตนมาก่อน มีทัศนคติสายตาที่มองโลกใบนี้อย่างคับแคบ เหมือนกับคนอีกหลายๆคนที่อยู่บนโลกเดียวกันนี้ แต่ผมก็เชื่อว่าทุกๆคนจะมี “การสะดุดคิด” จนมีบางสิ่งที่ทำให้สะดุดคิดได้ ผมว่ามนุษย์เราทุกคนต้องเคยมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เราสะดุดในความคิดต่างๆ นานา ด้วยเหมือนกัน การคิดด้วยจิตสำนึกของมนุษย์โดยมีปัญญาจึงมีความหมายต่อตัวเรามาก ชีวิตที่ต้องเวียนว่ายอยู่ในห้วงสังสารวัฎด้วยอำนาจของกรรมและวิบากนี้ เป็นสภาวะที่น่าเบื่อหน่าย ดังนั้น คนที่มีปัญญารู้เท่าทันความจริงของชีวิต และพยายามที่จะทำคนให้หลุดพ้นออกมาจากการเวียนว่ายในห้วงสงสาร วิถีทางในทางพาตัวเองให้หลุดพ้นออกมาจากวงจรชีวิตที่น่าเบื่อหน่ายนี้ก็ คือ การดำเนินไปตามหลักธรรมคำสั่งสอน คือ ศีล สมาธิ และปัญญา
เคยมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า แนวความคิดเกี่ยวกับเรื่องสังสารวัฏ การเกิดใหม่ การทำกรรม และรับผลของกรรม ตามที่กล่าวมาข้างต้น เป็นแนวคิดพื้นฐานของคนอินเดีย แนวความคิดทำนองนี้ไม่ได้มีเฉพาะในพุทธศาสนาเท่านั้น ศาสนาอื่นที่เกิดร่วมยุคกับพุทธศาสนาก็มีแนวความคิดในการมองชีวิตคล้ายๆ กันนี้ ดังนั้นหากเราจะสรุปว่าทัศนะที่ว่าชีวิตไม่ได้สิ้นสุดที่ความตาย ยังมีภพใหม่ชาติใหม่ที่คนเราสามารถไปเกิดได้อีกหลังจากตายแล้ว และชีวิตในภพใหม่นั้นจะเป็นอย่างไรย่อมขึ้นอยู่กับกรรมที่คนผู้นั้นได้กระทำไว้ก่อนตาย แนวความคิดที่ว่านี้แน่นอนว่าส่วนหนึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเชื่อที่ไม่อาจพิสูจน์ให้เห็นจริง กระนั้นความเชื่อดังกล่าวก็มีอิทธิพลต่อคนจำนวนมหาศาลเพราะเป็นความเชื่อร่วมที่คนทั้งหลายมีด้วยกัน คนเราสามารถพาชีวิตตนเองให้ค่อยๆ หักเหออกจากวงจรแห่งกิเลส กรรม และวิบาก จนที่สุดก็สามารถฝ่าไปจนพ้นเด็ดขาดจากวงจรที่ว่านี้ได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันต์สาวกทั้งหลายคือตัวอย่างของคนในอุดมคติดังกล่าวนี้
หนังสือ บิ๊กแบงภายในใจเล่มนี้ เปรียบเทียบได้กับที่พระสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยเกิดบิ๊กแบงภายในใจขึ้นมาที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เมื่อ ๒,๕๐๐ กว่าปีมาแล้ว และหนังสือเล่มนี้ออกจะเป็นวิชาการสักเล็กน้อย ซึ่งผู้เขียนเองพยายามทำให้เข้าใจง่าย ซึ่งจะกล่าวถึงทุกสรรพสิ่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น มนุษย์ สิ่งมีชีวิต ประวัติศาสตร์ จักรวาล วิทยาศาสตร์ วิวัฒนาการ ศาสนา ปรัชญา ความเชื่อต่างๆ ฯลฯ เป็นต้น การมองมิติเดียวทำให้เราไม่มีทางออก แต่การมองมิติต่างๆให้เป็นหลายมิติในมุมมองต่างๆนั้น จะทำให้ตัวเรามีทางออกได้และไม่คับแคบใจ เปิดใจกว้างที่จะเข้าใจในสรรพสิ่งทั้งหลายที่มันเป็นไป เพื่อทางออกแห่งความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เพื่อที่จะยอมรับต่อสรรพสิ่ง ไม่ใช่เพื่อจะเอาชนะต่อสรรพสิ่งนี้ เพื่อเกิด “บิ๊กแบงภายในใจ” (Big Bang In My Mind)
Big Bang In My Mind
Wednesday, August 8, 2007
คำปรารภ Big Bang in My Mind
Posted by mydjphong at 10:10 AM 0 comments
| Hotlinks: DiggIt! Del.icio.us
หัวข้อต่างๆของหนังสือ บิ๊กแบงภายในใจ
1. ว่าด้วยเรื่องการเข้าใจในสรรพสิ่ง
- ชีวิต it’s my life
- ประตูแห่งการรับรู้
- การเวลาของธรรมชาติในสรรพสิ่ง (การซ้อมเหลื่อมแห่งเวลา)
- ศาสนากับธรรมชาตินิยม
- ปริศนาจิตวิญญาณมนุษย์
2. ว่าด้วยเรื่องการรู้ทันในสรรพสิ่ง
- ประวัติศาสตร์มนุษย์
- มูลเหตุของการเกิดศรัทธาและศาสนา
- สังคมที่มั่งคั่งในยุคบริโภค / จิตใจที่มั่งคั่งในยุคบริโภค
- เราเป็นได้แค่ผู้บริโภคหรือเราสามารถเป็นได้มากกว่านั้น
- วิทยาศาสตร์กับศาสนา จุดต่างหรือจุดเหมือน
3. ว่าด้วยเรื่องการเข้าถึงในสรรพสิ่ง
- จิตจักรวาลสะท้อนปัญญา
- ความสุขเสมอด้วยความสงบไม่มีด้วย
- ทางเดินของชีวิตเพื่อกำเนิดบิ๊กแบงภายในใจ
- ใจอยู่ในกายหรือกายอยู่ในใจ (ทางเลือกหลุมดำหรือบิ๊กแบง)
- สิ่งที่เล็กย่อมเป็นสิ่งที่ใหญ่ได้ สิ่งที่ใหญ่ย่อมเป็นสิ่งที่เล็กได้
4. ว่าด้วยเรื่องการเป็นส่วนหนึ่งในสรรพสิ่ง
- จักรวาลที่มีบิ๊กแบงจึงเกิด
- ธรรมชาติของจักรวาล
- มิติความสัมพันธ์ของมนุษย์
- บิ๊กแบงภายในที่มี อิสรภาพทางใจจึงเกิด
- บิ๊กแบงของจักรวาลภายใน
- เข้าถึงความคิดนิพพานเข้าถึงบิ๊กแบงภายในใจ - จบ
ท่านผู้อ่านท่านใดมีข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุง
Please Comments
Posted by mydjphong at 8:51 AM 0 comments
| Hotlinks: DiggIt! Del.icio.us